Enhanced Ghost Header with Universal Hamburger Menu
VITAL MASTERY
VITAL MASTERY
บทความ

อยากประสบความสำเร็จ การสร้างระบบสำคัญกว่าเป้าหมาย

จากข้อคิดที่ได้จากหนังสือ Atomic Habits สู่การแชร์ประสบการณ์เมื่อลงมือปฏิบัติจริง

อยากประสบความสำเร็จ การสร้างระบบสำคัญกว่าเป้าหมาย

ปัญหา: ตั้งเป้าหมายแล้วไปไม่ถึง

เวลาที่เราอยากเริ่มทำอะไรใหม่ๆ เช่น อยากออกกำลังกาย อยากสุขภาพดี อยากลดน้ำหนัก หรือแม้แต่เริ่มงานใหม่ สิ่งแรกที่ทุกคนมักแนะนำก็คือ "ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน"

แต่เคยสงสัยไหมครับว่า ทั้งๆ ที่เราก็มีเป้าหมายชัดเจนเหมือนกันกับคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ทำไมผลลัพธ์ที่ได้ถึงต่างกันราวกับฟ้ากับเหว?

เมื่ออายุน้อยกว่านี้ ครั้งหนึ่งผมเคยเป็นคนหมกมุ่นกับการตั้งเป้าหมายมาก ๆ ตั้งแต่เป้าหมายเรื่องการงาน ต้องมุ่งมั่นย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศให้ได้ เรื่องสุขภาพ ต้องจบมาราธอนให้ได้อย่างน้อย 10 ครั้ง หรือแม้แต่เป้าหมายรายได้ต่อเดือนจากงานประจำที่ต้องทำให้ถึงจุดที่วางไว้

แน่นอนว่า เมื่อไหร่ที่ทำไม่ได้ "ความผิดหวัง" มาเยือนทันที โดยที่ยังไม่เตรียมใจเลย

แต่ความจริงคือ ผมล้มเหลวมากกว่าสำเร็จเยอะเลย

จนในวัย 40 ปี วิกฤติวัยกลางคนมาเยือน ผมเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงในทุกเรื่อง เริ่มไม่มั่นใจแม้ในสิ่งที่เคยทำได้ดี และนั่นทำให้ผมหาคำตอบอยู่นานมากว่าทำไม

แนวคิดหนังสือเรื่อง Atomic Habits เป็นหนึ่งในคำตอบของปัญหานี้ ผู้เขียนทำให้ผมเริ่มเห็นความจริงบางอย่างว่า ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของผมไม่ได้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ผมวางไว้ แต่กลับขึ้นอยู่กับ "ระบบ" ที่ผมใช้ในการเดินทางไปสู่เป้าหมายมากกว่า


แล้ว "ระบบ" คืออะไรกันแน่?

ระบบ (System) คือกระบวนการหรือกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาให้เราทำซ้ำ ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เราต้องการครับ ไม่ต่างจากคำว่า "ระเบียบวินัย" "ความสม่ำเสมอ" "กิจวัตร" "นิสัย"

จุดสำคัญที่ทำให้ผมเลือกใช้คำว่า "ระบบ" ตามหนังสือ ซึ่งดูเข้าใจยาก แทนที่จะใช้คำที่เข้าง่ายกว่านั้น สาเหตุเป็นเพราะคำว่า "ระบบ" เป็นคำที่มีความหมายตรงกับที่ต้องการจะสื่อสารมากที่สุด

"ระบบ" คือ "สิ่งที่ถูกออกแบบมา" ต่างจากคำอื่นที่อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องออกแบบในเชิงโครงสร้าง

ลองดูตัวอย่างง่ายๆ เหล่านี้

ถ้าคุณเป็นโค้ชทีมฟุตบอล

เป้าหมายของคุณคือการคว้าแชมป์ แต่ระบบที่สำคัญกว่าคือ วิธีเก็บข้อมูล วิธีการฝึกซ้อม วิธีการคัดตัวผู้เล่นที่จะซื้อเข้าทีม วิธีจัดตัวผู้เล่น 11 คนแรกและทีมสำรอง วิธีจัดแผนการเล่น

ถ้าคุณเป็นนักดนตรี

เป้าหมายอาจเป็นการเล่นเพลงที่ยอดเยี่ยม แต่ระบบที่คุณควรสนใจคือ ตารางการซ้อม วิธีเลือกเพลงที่ซ้อม วิธีจัดการกับการฝึกเทคนิคต่าง ๆ โดยครู

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ

เป้าหมายอาจเป็นรายได้หลายล้านบาท แต่ระบบของคุณคือ วิธีคัดเลือกทีมงาน วิธีพัฒนาผลิตภัณฑ์ วิธีทำการตลาด

คำถามที่น่าคิดคือ

ถ้าคุณเลิกสนใจเป้าหมายโดยสิ้นเชิง แล้วหันมาสนใจแค่ "ระบบ" ที่ทำทุกวันแทน คุณยังจะประสบความสำเร็จไหม?

คำตอบของผมคือ "ใช่" และ ระบบอาจจะทำให้ผมสำเร็จมากกว่าด้วยซ้ำ

แต่ไม่ได้หมายความว่าเป้าหมายไม่สำคัญเลยนะครับ

เป้าหมายยังมีประโยชน์ในการกำหนดทิศทาง แต่การโฟกัสที่ระบบคือกุญแจสำคัญในการเคลื่อนตัวไปข้างหน้า


ปัญหาของการตั้งเป้าหมาย

เมื่อเข้าใจคอนเซ็ปต์ของ 'ระบบ' แล้ว เราลองมาเจาะลึกกันดีกว่าว่า ทำไมการยึดติดกับ 'เป้าหมาย' เพียงอย่างเดียวจึงเป็นปัญหา

1. เป้าหมายไม่ได้ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น

คนที่ประสบความสำเร็จและคนที่ล้มเหลวต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันหมด เช่น นักกีฬาโอลิมปิกทุกคนต้องการเหรียญทองเหมือนกันหมด

แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือระบบที่เขาใช้ในการซ้อม

นักกีฬาที่ได้เหรียญทองไม่ได้ต่างจากคนอื่นตรงเป้าหมาย แต่ต่างกันตรงที่เขามีระบบการฝึกซ้อม การกิน การนอน และการฟื้นฟูร่างกายที่ดีกว่า


2. การบรรลุเป้าหมายเป็นเพียงความสำเร็จชั่วคราว

เหมือนผมเวลาทำความสะอาดห้องที่รก ผมมีนิสัยไม่ชอบเก็บบ้าน ชอบปล่อยให้รกเหมือนเดิม แน่นอนว่า ไม่นานห้องก็กลับไปรกอีก

การเปลี่ยนระบบต่างหากที่สร้างการเปลี่ยนแปลงระยะยาว

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ผมเคยลดน้ำหนักสำเร็จแล้วกลับมาอ้วนอีก เพราะผมโฟกัสแค่เป้าหมาย (น้ำหนักลด) เมื่อทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ ผมก็กลับมากินเหมือนเดิม โดยที่ผมไม่ได้เปลี่ยนระบบ ซึ่งคือนิสัยการกินและการออกกำลังกาย ไม่นานผมก็อ้วนอีก


3. เป้าหมายขัดขวางความสุขระหว่างทาง

เพราะผมเคยหมกมุ่นกับความคิดที่ว่า "ผมจะมีความสุขก็ต่อเมื่อสำเร็จตามเป้าหมาย" ส่งผลให้ ความสุขของผมเองนั่นแหละผูกอยู่กับอนาคต ไม่เคยอยู่กับปัจจุบัน ความสุขจึงเปรียบเหมือนของอร่อยที่ตั้งอยู่ตรงหน้า แต่เรากลับให้สัญญากับตัวเองว่าจะได้กินก็ต่อเมื่อทำภารกิจสำเร็จเท่านั้น คำถามคือ คุณจะได้กินของอร่อยเมื่อไหร่

การสนุกกับระบบต่างหากที่จะทำให้คุณมีความสุขได้ทุกวัน โดยไม่ต้องรอเป้าหมาย

การสร้าง "ระบบ" ขึ้นมา มันไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ยากหรือสิ่งที่ท้าทายมากเกินไป

  • เป้าหมายของเราไม่ใช่การไล่ล่าความสุขแบบ "สนุกสุดเหวี่ยง" ที่ขับเคลื่อนด้วย โดปามีน สารเคมีชนิดนี้จะหลั่งออกมาเมื่อเราคาดหวังรางวัลหรือบรรลุเป้าหมายที่ตื่นเต้น แต่ข้อเสียของมันคือเราจะชินชากับมันอย่างรวดเร็ว และต้องการ "สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม" เพื่อจะ "รู้สึกดีเท่าเดิม" มันคือวงจรที่ไม่เคยสิ้นสุด
  • สิ่งที่เราต้องการจริงๆ คือความสุขแบบ "สงบและพอใจ" ที่ขับเคลื่อนด้วย เซโรโทนิน ครับ ความสุขชนิดนี้ไม่ได้มาจากการพิชิตอะไรที่ยิ่งใหญ่ แต่มาจากการรู้สึกดีกับสิ่งที่เราเป็นและสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน มันคือความรู้สึกมั่นคงจากภายในที่ได้ทำตาม "ระบบ" เล็กๆ ของเราทุกวัน โดยไม่ต้องรอให้เรื่องมหัศจรรย์อะไรเกิดขึ้น

4. เป้าหมายทำให้คุณหยุดนิ่ง หลังจากประสบความสำเร็จ

ย้อนกลับไปตัวอย่างเดิม ผมเองก็เหมือนกับหลายคน ที่เคยตั้งเป้าหมายจบลงที่การวิ่งมาราธอน เมื่อพิชิตเป้าหมายได้แล้ว ผมเห็นคนส่วนใหญ่เลือกทางเดินอยู่ 2 แบบ

  • หยุดวิ่ง กลับไปเป็นเหมือนเดิมเหมือนทุกอย่าง คือวิ่งบ้าง ไม่วิ่งบ้าง
  • มองหาเป้าหมาย หรือภูเขาลูกถัดไปที่ยากมากขึ้น ท้าทายมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการ "เฆี่ยนตี" ตัวเองมากขึ้น เช่น ไปไตรกีฬา ไปลงอัลตร้ามาราธอน

การพัฒนาตัวเองแบบใจร้ายต่อตัวเอง หรือ "เฆี่ยนตี" ตัวเอง คือการทำร้ายตัวเองอย่างช้า ๆ ไม่ต่างจาก

ในที่สุด จะมีวันหนึ่งที่คุณยอมแพ้ หากไม่ใช่ร่างกายคุณ ก็จะเป็นจิตใจของคุณ

ในที่สุด ผมก็เกลียดการวิ่งไปเลย (ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง)

ระบบที่ดีจะทำให้คุณยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดนิ่งเมื่อผ่านเส้นชัย

เปรียบเหมือนคนออกแบบระบบการเรียนรู้มาดีพอ รู้จักตัวเอง รู้ว่าจุดไหนที่ตัวเองไหว จุดที่คือฝืน จะทำให้ตัวเองยังคงอ่านหนังสือ เข้าคอร์ส หรือพัฒนาตัวเองต่อไปได้เรื่อย ๆ

เพราะเราออกแบบระบบมาเองกับมือ เราจะไม่ทำในสิ่งที่เราฝืนตัวเอง


วิธีสร้างระบบที่ได้ผลจริง

1. เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่ทำได้ทุกวัน

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ห้ามใจร้ายกับตัวเองอย่างเด็ดขาด

อย่าคิดว่า ระบบที่คุณจะทำต้องใหญ่โต

ระบบที่ดี เริ่มจากนิสัยเล็ก ๆ ที่คุณทำได้อย่างสม่ำเสมอ

ประโยคหนึ่งที่ผมชอบพูดให้คนไข้ฟัง คือ หากตั้งเป้าว่าอยากออกกำลังกายโดยการวิ่ง วันนี้สิ่งที่ต้องทำ คือ อย่าเพิ่งซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่ม ใส่รองเท้าคู่เดิมที่มี แล้วเปลี่ยนจากวิ่งเต็มที่ตามที่ใจต้องการ เป็นเพียงเดินเบา ๆ สัก 10 นาที แล้วอย่าลืมทำให้มันสนุกที่สุดด้วย จะดูซีรี่ย์จีนก็ได้ ระวังอย่าให้ล้มก็พอ

2. ให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอมากกว่าความสมบูรณ์แบบ

หยุดความคิดว่า ในทุกวัน ต้องใช้ชีวิตให้ดี ได้คะแนนเต็ม 10

ถ้าคุณยังคิดอยู่ หยุดการเป็นมนุษย์ผู้ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย จากใจผมเองที่เคยใช้ชีวิตแบบนั้นมาก่อน

การทำได้ 10 คะแนน แต่ทำได้เพียงบางวัน แล้ววันอื่นไม่ทำเลย "แย่กว่า" การทำได้เพียง 5 คะแนน แต่ทำทุกวันสม่ำเสมอ ไม่มีขาด

3. ออกแบบสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อระบบ

สิ่งที่ทำผมแล้วได้ผลอย่างมาก แม้ไม่ใช่วิธีการที่สมบูรณ์แบบ แต่อย่างที่บอกไป ใช้ชิวิต 5 เต็ม 10 คะแนนก็เพียงพอ

เช่น

  • ผมอยากอ่านหนังสือให้บ่อยขึ้น กลับคอนโดสิ่งแรกที่ทำ คือ ผมวางมือถือไว้แถอีกห้องนึงที่ไม่ใช่ห้องนั่งเล่น เมื่อกลับมาในห้องนั่งเล่นสิ่งแรกที่เห็นคือ เมื่อกองหนังสือที่วางไว้รก ๆ แต่ตำแหน่งของหนังสือคือเด่นมาก อดไม่ไหวต้องไปหยิบมาอ่านสักหน้า
  • ถ้าผมอยากตื่นเช้าไปวิ่ง ใส่เสื้อวิ่งก่อนนอน แล้วบอกกับตัวเองว่าวันนั้นว่าวิ่งเสร็จ อนุญาติให้ตัวเองกินสิ่งที่อยากกิน 1 อย่าง แม้มันไม่ดีต่อสุขภาพ
  • ผมยังไม่มีครอบครัว ผมไม่สนิทกับที่บ้าน และผมรู้ตัวว่าอยู่คนเดียวไม่ได้หากผมเครียด ดังนั้น ถ้าผมอยากคลายเครียดแบบสุขภาพจิตดี ผมใช้วิธีโทรหาเพื่อนทุกวันพฤหัสหรือศุกร์ เพราะเป็นวันที่ผมล้ามากที่สุดแล้ว แล้วตื๊อขอไปนั่งคุย นั่งดื่ม นั่งร้องคาราโอเกะที่บ้านด้วย

4. สร้างระบบวัดผล แต่วัดกระบวนการ ไม่ใช่ผลลัพธ์

จากตัวอย่างข้างต้น

  • แทนที่ผมจะวัดว่าผมอ่านหนังสือ จบไปกี่เล่ม เปลี่ยนเป็นผมอ่านหนังสือได้กี่วัน (แม้อ่านได้เพียง 1 หน้าก็นับเป็น 1 วัน)
  • แทนที่ผมจะวัดว่าหลังวิ่ง น้ำหนักลดไปเท่าไหร่แล้ว ให้วัดว่าออกกำลังกายมาแล้วกี่วัน
  • แทนที่ผมจะวัดว่าสุขภาพผมจะเสียไหมจากการนั่งดื่มกับเพื่อนที่บ้าน ผมจะวัดว่าตื่นมาวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นมากขึ้นแค่ไหน วัดง่าย ๆ ว่าผมให้คะแนนความสุขตัวเองเท่าไหร่ จาก 0-10 และแน่นอนว่าความสุขไม่ใช่ การได้ 10 คะแนนเต็ม

สรุป

เป้าหมายอาจช่วยให้คุณเริ่มต้นและกำหนดทิศทาง

แต่ถ้าคุณต้องการก้าวหน้าอย่างแท้จริงในชีวิต ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต การเป็นคนที่เก่งขึ้น หรือมีรายได้มากขึ้น การออกแบบและตกหลุมรักระบบที่คุณทำทุกวันต่างหากที่จะทำให้คุณไปได้ไกลกว่าเดิม

เป้าหมายเป็นเพียง "จุดหมาย" ที่บอกทิศทาง แต่ "ระบบ" คือ "ยานพาหนะ" ที่จะพาคุณไปถึงที่นั่นจริง ๆ

คนที่ชนะในระยะยาว ไม่ใช่คนที่ตั้งเป้าหมายได้ยอดเยี่ยมที่สุด แต่คือคนที่มีระบบในการเดินทางที่ดีที่สุดต่างหาก

อย่าเป็นเพียงนักฝันที่เอาแต่จ้องมองแผนที่ แต่จงเป็นนักเดินทางที่ใส่ใจกับรายละเอียดและความสวยงามของการเดินทาง

ชัยชนะในเกมชีวิตที่ยาวไกลนี้ไม่ได้วัดกันที่ความยิ่งใหญ่ของเป้าหมาย แต่วัดกันที่ความยอดเยี่ยมของ "ระบบ" ที่คุณใช้ในทุกๆ วัน