Bitcoin ควรมีสัดส่วนเท่าไรในพอร์ตเกษียณ - รวบรวมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ (Update กลางปี 2025)

สาเหตุที่คำแนะนำมีการอัพเดทในช่วงกลางปี 2025

เดือนมิถุนายน 2025 เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในประเด็น Cryptocurrency 2 ประการ

นำมาสู่คำถามที่ว่า ณ ตอนนี้ คุณควรมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับ Bitcon ในพอร์ตเกษียณ?

1. กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ภายในการนำของรัฐบาล Donald Trunp ได้ออกประกาศ “เปลี่ยนแปลงคำเตือน” ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ในสมัยรัฐบาล Joe Biden โดยเปลี่ยนจาก “ไม่เห็นด้วย” (against) เป็น “เป็นกลาง” (neutral) ต่อการลงทุนใน crypto ในพอร์ตเกษียณ (retirement portfollio)
2. วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่วุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับ cryptocurrency ..

GENIUS Act คืออะไร

GENIUS Act เป็นกฏหมายที่สหรัฐฯ เปิดทางให้สถาบันการเงิน, บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ รวมถืงบุคคล (หากคุณสมบัติผ่านเกณฑ์) สามารถใช้ Stablecoin เป็น

• สื่อกลางชำระเงินหรือหนี้ตามกฏหมายได้
• แลกเปลี่ยนกับเงินมูลค่าคงที่ได้
• รักษาค่าเสถียรเทียบกับเงินสกุลหลักได้

ภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่ตั้งกฏเกณฑ์ขึ้นมาเฉพาะ

แต่กฏหมายนี้ไม่ได้ทำให้ Stablecoin กลายเป็น "legal tender" (เงินตราที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย) เหมือน dollar ของสหรัฐฯ นะครับ

ผลลัพธ์ที่ตามมา

ในช่วงเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา ผู้ให้บริการแผนเกษียณอายุเจ้าหลัก ๆ ในสหรัฐ มีการเสนอแผนพอร์ตโฟลิโอเพื่อการเกษียณอายุ (ในสหรัฐเรียกว่า 401(k) accounts or plans) โดยใส่ Bitcoin เป็นตัวเลือกในการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ถ้าผมบอกคุณว่า ที่จริง การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัวล่ะ?

อันที่จริง ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ผู้ลงทุนหลายคนอาจมี Bitcoin อยู่ในพอร์ตโฟลิโอเพื่อการเกษียณโดยไม่รู้ตัว

สาเหตุเนื่องจาก หนึ่งในกองทุน “ยอดนิยม” ที่ถือเป็นสัดส่วนสำคัญของพอร์ตโฟลิโอเพื่อการเกษียณ คือ S&P 500 (ดัชนีหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 500 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ) แต่ละบริษัทใน S&P 500 ล้วนมีการลงทุนในเงินคริปโตซ่อนอยู่ครับ

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีอย่างน้อย 3 บริษัทใน S&P 500 ที่ประกาศชัดเจนว่า “ถือครอง Bitcoin”

ได้แก่

1. Coinbase: เป็นบริษัทให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขาย cryptocurrency รายใหญ่ในสหรัฐ และมีถือ cryptocurrency หลายตัว
2. Tesla: ถือครอง Bitcoin มูลค่ากว่า $1 พันล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ.
3. MicroStrategy: เดิมทีเป็นบริษัทเทค ให้บริการด้านแพลตฟอร์มเกี่ยวกับระบบข้อมูลเชิงธุรกิจ (Business Intelligence - BI) ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Strategy เนื่องจาก Business Model ของบริษัทเปลี่ยนไปเป็นบริษัทที่ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา

อธิบายแบบเข้าใจง่าย

ตอนนี้หากคุณลงทุนในกองทุนที่อิงตามดัชนี S&P 500 เท่ากับ คุณถือ Bitcoin โดยอ้อม

และคุณอาจไม่รู้ตัวในเรื่องนี้ครับ

ผลลัพธ์คือ "มีความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่"

และเริ่มมีนักวิเคราะห์หลายท่าน เช่นใน New York Times เตือนว่า "ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่กำลังก่อตัวเพิ่มขึ้น"

ปัจจุบันแม้ "หุ้นของบริษัทที่ถือครอง Bitcoin" มักจะมี "มูลค่าสูงกว่า" Bitcoin ที่พวกเขาถือครองจริง แต่ "แนวโน้มนี้อาจไม่ยั่งยืนตลอดไป"

ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นอย่างไรกับสถานการณ์ปัจจุบัน

จากที่ฟังคำแนะนำมาจากหลายแหล่ง ขออนุญาติสรุปดังนี้

นักลงทุนอายุ 20-40 ปี

• สามารถจัดสรร crypto ในพอร์ตเกษียณได้
• สัดส่วนของการถือครองหลากหลายตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญแต่ละราย แต่ส่วนใหญ่แนะนำว่าไม่ควรถือครองเกิน 5%
• ในที่นี้ ขออนุญาติตัดคำแนะนำที่ค่อนข้างสุดโต่งทิ้ง เพราะนี่คือพอร์ตเกษียณ

หากนักลงทุนอายุมากกว่านั้น

• ไม่ควรถือครองคริปโตเกิน 1-2%
• ไม่ควรใช้ crypto เป็นเครื่องมือในการ "ไล่ตาม" เป้าหมายการออมที่ขาดหายไป

หลักการลงทุนใน crypto สำหรับพอร์ตเกษียณ

• DCA (Dollar Cost Average) เหมือนเช่นหลักการลงทุนทั่วไป เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคา
• หากต้องการลงทุนจริง ๆ ควรมีการกระจายความเสี่ยงภายใน cyptocurrency เองด้วย

การกระจายความเสี่ยงภายใน cyptocurrency

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า

• ควรยึด Bitcoin เป็นสินทรัพย์หลัก (70-75%)
• ตามมาด้วย Ethereum (25-30%)
• อย่างไรก็ตามสามารถถือ Stablecoins ได้หากต้องการด้านเสถียรภาพ.

สิ่งสำคัญที่สุด

• ควรเลือกใช้บริการจาก แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้
• มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เพราะหาก Cybersecurity อ่อนแอ มีความเสี่ยงที่เงินเราจะหายไปในอากาศได้

ข้อควรระวัง

** ในบทความนี้ ขอไม่กล่าวถึงกฏหมายยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Capital Gains) สำหรับกำไรจากการซื้อ–ขายคริปโต ในช่วง 1 ม.ค. 2025 ถึง 31 ธ.ค. 2029 ในไทยนะครับ เพราะจุดประสงค์หลักคือตอบคำถามว่าควรถือครอง crypto ในพอร์ตเกษียณหรือไม่

** บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลข่าวสารทั่วไปเท่านั้น มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้ชวน แนะนำ หรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนแต่อย่างใด ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง